ชื่อการค้า : แมมมอท แคลเซียมโบรอน 

เครื่องหมายการค้า : ตราปลาคู่

คุณสมบัติ : เป็นปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ชนิดน้ำ ประกอบด้วยปริมาณธาตุอาหาร ดังนี้

ปริมาณธาตุอาหารรอง

 แคลเซียม (CaO)………..13.8%

ปริมาณธาตุอาหารเสริม

 โบรอน(B)………………..1 %

ประโยชน์

      ประกอบด้วยแคลเซียม โบรอน ในรูปที่มีพืชดูดซึมได้ดี จึงช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของพืชให้ผลผลิตดี มีคุณภาพ ช่วยให้ผลมีเนื้อแน่น รสชาติดี ไส้ไม่ซึมหรือฟ่าม การเข้าสีของผลสม่ำเสมอ ขั้วผลเหนียว ป้องกันผลแตกและร่วงก่อนอายุเก็บเกี่ยว นอกจากนั้นยังช่วยให้เกสรแข็งแรง การผสมเกสรติดดี จึงช่วยให้เกิดการติดผลมากขึ้น ส่วนพืชผักจะช่วยให้ท่อหัวได้แน่น มีน้ำหนักดี ป้องกันอาการไส้กลวงดำ

 

พืชที่แนะนำให้ใช้และอัตราการใช้ : 

แตงต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา มะเขือต่างๆ ผักกาดหอม ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล 30-40 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

พืชตระกูลกะหล่ำ 20-40 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร 

พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับประรด 20-40 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

ควรพ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืช ทุกๆ7-10 วัน

 

คำแนะนำ

ควรอ่านคำแนะนำเอกสารกำกับปุ๋ยให้เข้าใจก่อนทุกครั้ง หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหาสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้ากรมวิชาการเกษตรประจำสถานีทดลองหรือสถาบันวิจัยพืชในท้องถิ่นเพื่อให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนดเพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้

 

ข้อควรระวัง

1.โดยทั่วไปแล้วปุ๋ยเคมีพ่นทางใบ พืชใช้ประโยชน์ได้น้อย ควรใช้เป็นปุ๋ยเสริมกับการใช้ปุ๋ยทางดิน

2.ควรพ่นในเวลาเช้าหรือเย็นในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรงและคาดว่าฝนไม่ตก

3.ขณะที่พ่นต้นไม่เหี่ยวเฉา หรือขาดน้ำ

4.การพ่นอย่าให้ถึงเปียกโชกเพราะจะทำให้เสียค่าปุ๋ยเพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพปุ๋ยและประสิทธิภาพปุ๋ยที่ใช้ทางใบเมื่อตกลงดินจะมีประสิทธิภาพเท่ากับปุ๋ยที่ใส่ทางดิน

5.ควรเก็บรักษาปุ๋ยเคมีในภาชนะที่มิดชิดในที่ร่มและแห้งและควรเก็บปุ๋ยเคมีไว้ในที่ปลอดภัยห่างไกลจากมือเด็ก

6.ระวังอย่าให้ถูกผิวหนังหรือเข้าตาหากถูกผิวหนังและเข้าตา ควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที

7.ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้นและอาจเป็นอันตรายได้ง่ายควรเปิดด้วยความระมัดระวัง