ชื่อการค้า : กรีนแคลแมกซ์

เครื่องหมายการค้า : ตราใบไม้ตัวจี

คุณสมบัติ : ประกอบด้วย ธาตุอาหารรับรอง ดังนี้
ปริมาณธาตุอาหารรอง
แมกนีเซียม (MgO)………..2.00%
แคลเซียม (CaO)………...15.00%
ปริมาณธาตุอาหารเสริม
เหล็ก (Fe)………………….0.04%

แมงกานีส (Mn)………...….0.10%
ทองแดง (Cu)……………...0.04%

สังกะสี (Zn)…………….....0.015%
โบรอน (B)…………………0.05%
โมลิบดีนัม (Mo)……………0.001%
ประโยชน์
ช่วยให้ใบพืชมีสีเขียวเข้มมากขึ้น ทำให้พืชมีความแข็งแรง ช่วยในการสร้างโปรตีน ช่วยขยายขนาดของผล ป้องกันไม่ให้ผล เถา หรือฝักแตก ทำให้เนื้อแน่น ป้องกันแกนไส้นิ่ม รสชาติและสีดีขึ้น ช่วยให้พืชแตกตาดอกและตายอด เพิ่มคุณภาพของผลผลิต แก้ปัญหาการขาดธาตุสังกะสี แก้อาการใบแก้ว ใบลายในส้ม ช่วยให้พืชทนทานต่ออากาศหนาวได้ดีขึ้น

พืชที่แนะนำให้ใช้และอัตราการใช้ :

แตงต่างๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา มะเขือต่างๆ ผักกาดหอม ไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล 10-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

พืชตระกูลกะหล่ำ 10-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับประรด 10-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร
ควรพ่นให้เป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกๆส่วนของพืช ทุกๆ 7-10 วัน

คำแนะนำ
ควรอ่านคำแนะนำเอกสารกำกับปุ๋ยให้เข้าใจก่อนทุกครั้ง หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหาสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้ากรมวิชาการเกษตรประจำสถานีทดลองหรือสถาบันวิจัยพืชในท้องถิ่นเพื่อให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนดเพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้
ข้อควรระวัง
1.โดยทั่วไปแล้วปุ๋ยเคมีพ่นทางใบ พืชใช้ประโยชน์ได้น้อย ควรใช้เป็นปุ๋ยเสริมกับการใช้ปุ๋ยทางดิน
2.ควรพ่นในเวลาเช้าหรือเย็นในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรงและคาดว่าฝนไม่ตก
3.ขณะที่พ่นต้นไม่เหี่ยวเฉา หรือขาดน้ำ
4.การพ่นอย่าให้ถึงเปียกโชกเพราะจะทำให้เสียค่าปุ๋ยเพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพปุ๋ยและประสิทธิภาพปุ๋ยที่ใช้ทางใบเมื่อตกลงดินจะมีประสิทธิภาพเท่ากับปุ๋ยที่ใส่ทางดิน
5.ควรเก็บรักษาปุ๋ยเคมีในภาชนะที่มิดชิดในที่ร่มและแห้งและควรเก็บปุ๋ยเคมีไว้ในที่ปลอดภัยห่างไกลจากมือเด็ก
6.ระวังอย่าให้ถูกผิวหนังหรือเข้าตาหากถูกผิวหนังและเข้าตา ควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
7.ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้นและอาจเป็นอันตรายได้ง่ายควรเปิดด้วยความระมัดระวัง